ปัจจุบันมีการนำสารสเตียรอยด์ไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม โดยปนปลอมสารสเตียรอยด์ลงในยาแผนโบราณ และยาสมุนไพร เพื่อให้เกิดผลการรักษาแบบครอบจักรวาล ในช่วงแรกที่รับประทานยา ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกว่ายาที่รับประทานนั้นสามารถรักษาอาการได้ดี แต่เมื่อรับประทานเข้าไปนาน ๆ จะเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงจากสเตียรอยด์ ข้อสังเกตว่ายาที่รับประทานอยู่อาจเป็นยาที่มีการผสมสเตียรอยด์ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น
หากต้องการใช้ยาลูกกลอน ยาสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อ ยาพระ เหล่านั้น แต่ไม่แน่ใจว่ามียาสเตียรอยด์ปนปลอมมาหรือไม่ มีวิธีการตรวจสอบการปนปลอมยาสเตียรอยด์ได้อย่างง่าย ๆ โดยใช้ “ชุดตรวจสอบสเตียรอยด์”
ยาแผนโบราณชนิดต่าง ๆ ที่ใช้เป็นตัวอย่างทดสอบ
ภาพจาก : สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ https://bdn.go.th/th/sDetail/15/50/
ภาพจาก : สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ https://bdn.go.th/th/sDetail/15/50/
วิธีการทดสอบ
- บดยาแผนโบราณที่ต้องการทดสอบ
- ใช้หลอดพลาสติกตักตัวอย่างยาใส่หลอดทดสอบ (กรณียาน้ำให้รินใส่หลอดทดสอบ) โดยใส่ตัวอย่างยาให้มีปริมาณเท่ากับขีดสีน้ำเงินข้างหลอดทดสอบ (ขีดล่าง)
- ใส่น้ำยาละลายตัวอย่างที่ให้มาในชุดทดสอบ จนถึงขีดสีแดง (ขีดบน) ปิดจุกและเขย่าอย่างน้อย 3 นาที (เป็นการสกัดสารสเตียรอยด์)
- ตั้งหลอดทดสอบจนกระทั่งยาตกตะกอน และน้ำยาแยกชั้นใส
- เปิดซอง นำชุดทดสอบวางบนพื้นราบ ในที่มีแสงสว่างเพียงพอ ใช้หลอดหยดที่ให้มาในซองดูดน้ำยาส่วนใส ระวังอย่าให้มีฟองอากาศ และหยดน้ำยาลงในหลุมรับตัวอย่างที่ละหยด จำนวน 4 หยด ในลักษณะหลอดหยดตั้งตรง
- อ่านผลการทดสอบที่เวลา 10 นาที ไม่ควรอ่านผลทดสอบเกินเวลากำหนด
ผลบวก มีสารสารสเตียรอยด์
ผลลบ ไม่มีสารสารสเตียรอยด์
เรียบเรียง:
ประทุม โพธิ์งาม ครูชำนาญการพิเศษ กลุ่มวิชาการ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาลำปาง
อ้างอิง:
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. สำนักยาและวัตถุเสพติด. ชุดตรวจสเตียรอยด์ (หลักการ IC). สืบค้น 23 กันยายน 2563จาก https://bdn.go.th/th/sDetail/15/50/
นฤมล จำรูญสุข (2561, 30 มกราคม). 3 เทคนิคตรวจ “สเตียรอยด์” ก่อนใช้ยาสมุนไพร. ผู้จัดการออนไลน์. สืบค้นจาก https://mgronline.com/qol/detail/9610000009573
บทความที่เกี่ยวข้อง