อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ : เมืองโบราณศรีเทพ มรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 240 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์จำนวน 12 แห่งของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นเป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมื่อปี พ.ศ. 2527 และอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ชื่อเรียก “ศรีเทพ” นั้น ชื่อเรียกตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งวิชาประวัติศาสตร์และโบราณคดีไทย ที่ได้ทรงสันนิษฐานไว้ในคราวเสด็จตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปี พ.ศ. 2447

ภาพโดย : กรมศิลปากร  
จาก UNESCO World Heritage convention.  whc.unesco.org/en/documents/192160

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วน คือ พื้นที่เมืองโบราณศรีเทพ และพื้นที่นอกเมืองโบราณศรีเทพพื้นที่เมืองโบราณศรีเทพ

พื้นที่เมืองโบราณศรีเทพ 

เมืองโบราณศรีเทพ
เป็นเมืองที่มีคูเมืองและกำแพงเมืองล้อมรอบ มีพื้นที่รวมประมาณ 2,889 ไร่ หรือประมาณ 4.7 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองโบราณที่ยังคงรักษารูปแบบแต่เดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ มีลักษณะพิเศษเฉพาะที่ไม่ค่อยพบในเมืองอื่นในยุคเดียวกัน คือ มีการแบ่งพื้นภายในเมืองออกเป็น 2 ส่วน “เมืองใน” และ “เมืองนอก

แผนผังเมืองโบราณศรีเทพ

  • เมืองใน มีพื้นที่ประมาณ 1,300 ไร่ หรือประมาณ 1.87 ตารางกิโลเมตร ลักษณะผังเมืองค่อนข้างกลม ภายในตัวเมืองในมีโบราณสถานสำคัญ ซึ่งมีขนาดใหญ่ 3 แห่ง คือ ปรางค์ศรีเทพ ปรางค์สองพี่น้อง และเขาคลังใน นอกจากนี้ยังพบโบราณสถานขนาดเล็กตั้งกระจายตัวอยู่อีก จำนวน 45 แห่ง สระน้ำโบราณขนาดใหญ่และเล็กกระจายตัวอยู่ทั่วไปราว 70 แห่ง ปัจจุบันพื้นที่ในเขตเมืองในได้รับการพัฒนาแล้ว และเป็นพื้นทีที่เปิดให้นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว และประชาชน เข้าเที่ยวชมได้ 

  • เมืองนอก ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเมืองใน มีคูเมืองและกำแพงเมืองล้อมรอบทุกด้าน ยกเว้นด้านที่เชื่อมต่อกับเมืองใน มีพื้นที่ประมาณ 1,589 ไร่ หรือ 2.83 ตารางกิโลเมตร ทำให้ผังเมืองศรีเทพเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน ภายในตัวเมืองนอกพบโบราณสถานขนาดเล็ก ราว 54 แห่ง มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางเมืองค่อนไปทางทิศเหนือ พื้นที่บางส่วนชาวบ้านยังใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม
พื้นที่นอกเมืองโบราณศรีเทพ
นอกคูเมืองกำแพงเมืองโบราณ มีการสำรวจพบโบราณสถานอีกจำนวน 50 แห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางทิศเหนือของเมือง โบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่ เขาคลังนอก ปรางค์ฤๅษี กลุ่มเขาคลังสระแก้ว และสระแก้ว สระน้ำโบราณขนาดใหญ่

ส่วนทางด้านทิศตะวันตกนอกเมืองโบราณศรีเทพห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโบราณสถานถ้ำเขาถมอรัตน์ ศาสนสถานสมัยทราวดีที่ เขาถมอรัตน์ เป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่มีรูปลักษณ์เฉพาะซึ่งใช้เป็นจุดสังเกตในการเดินทางที่สำคัญมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยบริเวณเชิงเขาเป็นแหล่งผลิตเครื่องมือและกำไลหินที่สำคัญ ต่อมาในสมัยทวารวดีได้มีการดัดแปลงถ้ำหินปูนที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาให้เป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาแบบมหายาน กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 14

โบราณสถานที่สำคัญในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ

เขาคลังใน 
ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมืองใน เป็นศาสนสถานสำคัญประจำเมือง อาคารประธานมีขนาดใหญ่ ก่อสร้างตามแบบวัฒนธรรมทวารวดีด้วยศิลาแลง ฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก เขาคลังในมีเอกลักษณะความโดดเด่นที่แตกต่างจากโบราณสถานในวัฒนธรรม
ทวาราวดีแห่งอื่น ๆ คือ ประติมากรรมรูปคนแคระประดับที่ฐานของอาคารที่มีศีรษะเป็นบุคคลหรือสัตว์ ต่าง ๆ สลับกับรูปสัตว์ประกอบลายพันธ์พฤกษา ซึ่งยังคงหลงเหลือประดับอยู่บริเวณฐานด้านทิศใต้และตะวันตก นอกจากอาคารประธานแล้ว รอบ ๆ ยังพบฐานเจดีย์ราย วิหาร และอาคารขนาดเล็กหลายแห่ง เขาคลังในสร้างขึ้นสมัยแรกสร้างเมืองในราวพุทธศตวรรษที่ 12 เพื่อเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาลัทธิหินยาน ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ในราวพุทธศตวรรษที่ 14 จนเมืองถูกทิ้งร้างไปในราวพุทธศตวรรษที่ 18  



ปรางค์สองพี่น้อง 
ตั้งอยู่ภายในเขตเมืองใน เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะเขมรโบราณ ประกอบด้วยด้วยปราสาทสององค์ ปราสาทประธาน มีผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพิ่มมุม ส่วนฐานก่อด้วยศิลาแลง ส่วนเรือนธาตุก่อด้วยอิฐ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ส่วนปราสาทองค์เล็กตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ ซึ่งสร้างขึ้นเพิ่มเติมอยู่บนฐานเดียวกัน ปราสาททั้งสองส่วนยอดพังทลายไปแล้ว นอกจากนี้ยังพบแนวทางเดินและอาคารขนาดเล็กสำหรับประกอบพิธีกรรมอีกหลายหลัง จากการขุดแต่งทางโบราณคดีพบประติมากรรมรูปพระสุริยเทพ ศิวลึงค์ ฐานโยนี รูปโคนนทิ และทับหลังจำหลักรูป "อุมามเหศวร" ศิลปะแบบบาปวน-นครวัด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู และต่อมาได้รับการดัดแปลงให้เป็นพุทธสถานแบบมหายาน

ภาพโดย กรมศิลปากร 
จาก UNESCO World Heritage Convention  https://whc.unesco.org/en/documents/192155

ภาพโดย ธนากร หน่อแก้ว และ บุษษา มาลินีกุล

ปรางค์ศรีเทพ  
ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองใน เป็นสถาปัตยกรรมแบบเขมรโบราณ มีลักษณะเป็นปราสาทที่ก่อด้วยอิฐตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ หันหน้าไปทางด้านตะวันตกในแนวแกนเดียวกับปรางค์สองพี่น้อง จากลักษณะทางสถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุที่พบโดยเฉพาะทับหลังทำให้อนุมานได้ว่าคงสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยเนื่องในศาสนาฮินดู (พราหมณ์) ลัทธิไศวนิกาย ในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17  ต่อมามีการพยายามซ่อมแซมดัดแปลงเพื่อใช้เป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาลัทธิมหายานแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  (พ.ศ. 1724-1760)  เช่นเดียวกันกับปรางค์สองพี่น้อง 

ปรางค์ศรีเทพ   ภาพโดย บุษบา มาลินีกุล

เขาคลังนอก  
เป็นศาสนสถานขนาดใหญ่แบบวัฒนธรรมสมัยทวารวดีเช่นเดียวกับเขาคลังใน ตั้งอยู่ในพื้นที่นอกเมืองโบราณศรีเทพ ทางด้านทิศเหนือ ห่างออกไปราว 2 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นมหาสถูป มีฐานขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่อด้วยศิลาแลงที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ประดับตกแต่งฐานด้วยอาคารจำลองขนาดต่าง ๆ อยู่โดยรอบ ภายในทึบตัน มีบันไดทางขึ้นทั้ง 4 ด้าน มีสถูปก่อด้วยอิฐตั้งอยู่ด้านบนล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วและซุ้มประตู สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุร่วมสมัยกับโบราณสถานเขาคลังในที่ตั้งอยู่ภายในเมือง คือ ราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 เขาคลังนอกเป็นศาสนสถานที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์มากที่สุดในบรรดาศาสนสถานที่ร่วมสมัยเดียวกัน

ปรางค์ศรีเทพ   ภาพโดย บุษบา มาลินีกุล

ปรางค์ฤาษี  
ตั้งอยู่นอกเมืองโบราณศรีเทพ ทางด้านทิศเหนือ ห่างออกไปราว 3 กิโลเมตร เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเขมรโบราณ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตัวปราสาทก่อด้วยอิฐตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงขนาดไม่สูงนัก และมีอาคารขนาดเล็กในบริเวณเดียวกัน ล้อมรอบด้วยแนวกำแพงก่อด้วยศิลาแลง พบโบราณวัตถุในศาสนาฮินดู ได้แก่ ศิวลึงค์ ฐานประติมากรรม และชิ้นส่วนโคนนทิ สันนิษฐานว่าปรางค์ฤาษีน่าจะมีอายุเก่ากว่า หรือร่วมสมัยกับโบราณสถานปรางค์ศรีเทพและปรางค์สองพี่น้อง ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16

ปรางค์ฤาษี    ภาพโดย บุษบา มาลินีกุล

ถ้ำเขาถมอรัตน์ 
บริเวณนอกเมืองโบราณศรีเทพทางด้านทิศตะวันตก ห่างออกไปประมาณ 20กิโลเมตร มีภูเขาขนาดใหญ่คือเขาถมอรัตน์ ภายในถ้ำบนภูเขา มีภาพสลักนูนต่ำเป็นภาพพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ ซึ่งสร้างขึ้นตามความเชื่อของพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ลักษณะศิลปะทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 14 ได้แก่ภาพพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับยืนแสดงธรรมอยู่บนฐานรูปดอกบัว พระโพธิสัตว์สี่กร สถูปและธรรมจักร ส่วนเศียรและพระหัตถ์ของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เคยถูกสกัดออกไป ต่อมาติดตามกลับคืนมาได้ ปัจจุบันนำไปจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร


ภาพสลักนูนต่ำ ในถ้ำเขาถมอรัตน์

เมืองโบราณศรีเทพ มรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก นับเป็นมรดกโลกแห่งที่ 7 ของประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 4 ในประเภทมรดกโลกทางวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ "เมืองโบราณศรีเทพ และโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง (The Ancient Town of Si Thep and its Associated Dvaravati Monuments)" ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 45 เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566 ที่กรุงรียาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากผ่านข้อกำหนดและหลักเกณฑ์พิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลก 2 ข้อ ดังนี้

(ii) เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
 
(iii) เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว

พื้นที่ของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ปรากฎร่องรอยหลักฐานซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยของมนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยวัฒนธรรมทวารวดี จนถึงเขมรตามลำดับ รวมระยะเวลาที่มีความเจริญรุ่งเรืองถึงกว่า 800 ปี นับเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ก่อนที่จะถูกทิ้งร้างไป ในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ถึง ต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ก่อนที่วัฒนธรรมสุโขทัยและอยุธยาจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่ นับเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย



เรียบเรียง :
นัชรี อุ่มบางตลาด สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือ

อ้างอิง :
• กรมศิลปากร. (2550). อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ. รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977).
• กรมศิลปากร. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ. https://www.finearts.go.th/main/view/8207-อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
• พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ. อุทยานประวัติศาสตร์เสมือนจริง. http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/sithep/index.php/th/about-us.html
The Ancient Town of Si Thep and its Associated Dvaravati Monuments. UNESCO World Heritage Convention. https://whc.unesco.org/en/list/1662