ภาพโดย สราวุธ เบี้ยจรัส
วิธีฝึกถ่ายภาพหยุดการเคลื่อนไหว
1. ความเร็วชัตเตอร์สูง
การถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์สูง ช่วยหยุดความเคลื่อนไหวให้หยุดนิ่ง โดยเลือกปรับกล้องเป็นโหมด TV หรือ S (Shutter Priority) เพื่อความสะดวกในการปรับตั้งเปลี่ยนแปลงเพียงค่าเดียว ไม่ต้องกังวลกับการปรับตั้งค่าตัวอื่นๆ อาทิ ช่องรับแสง ค่าความไวแสง เมื่อสามารถถ่ายภาพลักษณะนี้ได้คล่องแล้วจึงก้าวไปสู่โหมด M ที่ต้องปรับเองในทุกขั้นตอน ซึ่งในทางปฏิบัติหากต้องการเก็บภาพวินาทีสำคัญในเวลาเร่งรีบ โหมดอัตโนมัติก็ถูกนำมาใช้เป็นตัวเลือกแรก ส่วนการถ่ายภาพลักษณะนี้ในโหมด M จะต้องตั้งค่ากล้องเอง ทั้งปรับความเร็วชัตเตอร์ที่ต้องการและคมชุดลึก ชัดตื้น ตามที่ต้องการ ซึ่งแล้วแต่คนถนัดว่าจะเลือกปรับกล้องถ่ายในโหมดไหน ส่วนการปรับค่า iso ในการถ่ายภาพแนวนี้เป็นการถ่ายแสงกลางวัน แสงดีอยู่แล้ว ปรับ iso เป็น Auto (แต่ถ้าสภาพแสงน้อย ๆ ไม่แนะนำให้ใช้ Auto) สำหรับความเร็วชัตเตอร์ที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพแนวหยุดความเคลื่อนไหว (Stop Action) ขึ้นอยู่กับความเร็วของวัตถุหรือสิ่งที่จะถ่ายว่าเร็วมากแค่ไหน อาจใช้หลักการต่อไปนี้ไปปรับใช้ได้• ภาพคนเดิน กระโดด ความเร็วใช้ได้ตั้งแต่ 1/250 1/400 หรือ 1/800 วินาที ก็ได้แล้ว ขึ้นอยู่กับสภาพแสง
• ถ่ายภาพนกบิน 1/800 1/2000 ขึ้นอยู่กับบินเร็วช้าแค่ไหน (ตามความเร็วของวัตถุหรือสิ่งที่ถ่าย)
• ถ่ายภาพรถวิ่ง 1/2000 หรือ 1/4000 (ตามความเร็วของวัตถุหรือสิ่งที่ถ่าย)
• ถ่ายภาพรถแข่ง 1/4000 หรือ 1/8000 (ตามความเร็วของวัตถุหรือสิ่งที่ถ่าย)
2. การใช้ High Speed Sync
เทคนิคการถ่ายภาพหยุดความเคลื่อนไหว (Stop Action) สามารถนำไปใช้กับการถ่ายภาพได้หลากหลายประเภท อาทิ การถ่ายภาพบุคคล การถ่ายภาพหยดน้ำ การถ่ายภาพสัตว์ ให้มีความโดดเด่นเหมือนหยุดช่วงจังหวะเวลานั้นไว้ ไม่เฉพาะแต่แสงธรรมชาติ ในสตูดิโอก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน ยิ่งมีไฟแฟลชกำลังสูงมาช่วย ก็ยิ่งเลือกความเร็วชัตเตอร์สูงได้ แต่กล้องถ่ายภาพต้องมีโหมดถ่ายภาพสัมพันธ์ความเร็วสูง (High Speed Sync) ไม่เช่นนั้นม่านชัตเตอร์จะปิดก่อนที่แสงจะผ่านเข้าไปผลลัพธ์คือ มีแถบดำเกิดขึ้นในภาพ
ความเร็วที่ปลอดภัยสามารถหยุดความเคลื่อนไหวควรเริ่มตั้งแต่ 1/250 วินาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วของวัตถุ ระยะห่างระหว่างกล้องกับวัตถุ และสภาพแสงขณะนั้น ยิ่งถ่ายภาพมากก็จะเกิดความชำนาญสามารถคาดคะเนคำนวณล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ
ภาพโดย สราวุธ เบี้ยจรัส
ภาพโดย สราวุธ เบี้ยจรัส
3. ระบบโฟกัส
ปรับกล้องเป็นระบบโฟกัสแบบเคลื่อนที่ AI Servo / AF-C จะช่วยจับความเคลื่อนไหวของวัตถุได้มากขึ้น เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือ ไม่อยากพลาดช็อตสำคัญ ซึ่งปัจจุบันกล้องทันสมัยขึ้น มีระบบ Eye AF และ Eye-Tracking ทำให้มีโอกาสได้ภาพเด็ด ๆ ง่ายขึ้น ต่อให้ภาพถ่ายมีองค์ประกอบภาพดีอย่างไร แต่จุดโฟกัสพลาดไม่เข้าเป้า ก็ทำให้ภาพนั้นดูไม่สมบูรณ์ได้เลยภาพโดย สราวุธ เบี้ยจรัส
การจับจังหวะเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพหยุดความเคลื่อนไหว (Stop Action) ถ้าจับจังหวะได้ดี ก็จะได้ภาพแอคชั่นที่ดี การถ่ายภาพบ่อย ๆ จะเป็นการฝึกการจับจังหวะได้ง่ายและเร็วขึ้น ก่อนถ่ายควรปรับกล้องให้อยู่โหมดถ่ายต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มโอกาสได้เลือกภาพที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั่น
ภาพโดย สราวุธ เบี้ยจรัส
ภาพโดย สราวุธ เบี้ยจรัส
การถ่ายภาพหยุดความเคลื่อนไหว (Stop Action) ไม่ใช่เรื่องยาก หากได้ถ่ายภาพแนวนี้บ่อย ๆ เพื่อฝึกหาจังหวะในการกดชัตเตอร์ที่แม่นยำและการควบคุมกล้องให้อยู่หมัด การวางแผนก่อนถ่ายก็เป็นอีกเรื่องที่ดีแล้วทำให้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น แล้วก็ได้ภาพที่ต้องการได้สมบูรณ์และสวยงาม
เรียบเรียง/ถ่ายภาพ:
สราวุธ เบี้ยจรัส นักวิชาการโสตทัศนศึกษา สถาบัน กศน.ภาคเหนือ
อ้างอิง:
สุทธิพจน์ เดชฉกรรจ์. (2564, 14 มิถุนายน). เทคนิคการถ่ายภาพ Stop Action และ Panning Action. http://www.vistaimage.net/เทคนิคการถ่ายภาพ-stop-action-และ-panning-shot/
Big Camera. (2555, 13 กันยายน). STOP ACTION หยุดวินาทีเคลื่อนไหว. https://www.bigcamera.co.th/article/stop-action.html