เป็นต้นไม้ที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-20 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกว้าง เปลือกของลำต้นจะมีสีน้ำตาลอมชมพูอ่อนและกิ่งจะมีขนปกคลุมอยู่ทั่วทั้งต้น ผลัดใบช่วงสั้น ๆ
สถานะภาพ
ไม้หวงห้าม ประเภท ก. (พระราชกฤษฎีกา กำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530)
ต้นมะค่าโม่ง ในสถาบัน กศน.ภาคเหนือ ภาพโดย นัชรี อุ่มบางตลาด
ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์
1. ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) : Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib
2. ชื่อไทย (Vernacular name) : มะค่าโมง
3. ชื่อท้องถิ่น (Local name) : ภาคกลางเรียก มะค่าใหญ่ มะค่าโมง ฟันฤาษี แต้โหล่น ภาคเหนือ เรียก มะค่าหลวง มะค่าหัวคำ ภาคอิสาน เรียก เขง เบง (สุรินทร์) ปิ้น (นครราชสีมา) ภาคตะวันออก เรียก บิง (จันทบุรี)
4. ชื่อสามัญ (Common name) : Black rosewood, Pod mahogany
5. วงศ์ (Family) : Fabaceae หรือ Leguminosae (วงค์ถั่ว)
6. สกุล (Genus) : Afzelia
7. ลักษณะวิสัย (Habit) : ไม้ต้น
8. ลักษณะทางพฤกษศาตร์
- ลำต้น ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-20 เมตร อาจสูงได้ถึง 30 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกว้างเปลือกของลำต้นมี หรือน้ำตาลอมชมพู ผิวต้นขรุขระ กิ่งอ่อนมีขนประปรายปกคลุม ต้นแก่มักมีปุ่มปม เนื้อไม้มีลวดลายสวยงามสีน้ำตาลอมเหลือง
- ใบ ใบมะค่าโมงเป็นใบประกอบ ออกเรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ก้านใบหลักยาวประมาณ 18-30 เซนติเมตร ประกอบด้วยใบย่อยขึ้นตรงกันข้ามมี 3-5 คู่ ออกเรียงสลับ ใบย่อยมีรูปไข่ ใบย่อยมีก้านใบสั้นประมาณ 0.3-0.5 มิลลิเมตร กว้าง 4-5 เซนติเมตร ยาว 5-9 เซนติเมตร โคนใบมน ปลายใบแหลมมีติ่งสั้น ๆ ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา เรียบเกลี้ยง
ต้นมะค่าโม่ง ในสถาบัน กศน.ภาคเหนือ ภาพโดย นัชรี อุ่มบางตลาด
- ช่อดอก ดอกมะค่าโมงออกดอกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่งหรือซอกใบ ช่อดอกยาว 5–15 เซนติเมตร มีขนคลุมบาง ๆ
- ดอก ออกตามปลายกิ่ง ยาว 5-15 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มสีเทา ใบประดับรูปไข่ ยาว 0.6-0.9 เซนติเมตร ใบประดับย่อยคล้ายใบประดับ ติดเหนือจุดกึ่งกลางก้านดอกเล็กน้อย ทุกส่วนมีขนคลุมบาง ๆ ดอกคล้ายดอกถั่ว กลีบรองดอกมี 4 กลีบ เรียงซ้อนทับกัน ยาวประมาณ 10–12 ส่วนกลีบดอกมี เพียง 1 กลีบ แผ่นกลีบดอกมีสีแดงเรื่อ ๆ หรือสีชมพู มีรูปทรงกลมคล้ายช้อน ส่วนฐานคอดเป็นก้าน ปลายกลีบย่นเว้าตื้น ๆ กลีบเลี้ยงสีเขียว แต่ละกลีบเรียงซ้อนทับกันแบบตรงข้าม มีขนสั้นนุ่ม ขอบกลีบบาง ฐานรองดอกมีขนสั้นนุ่มสีเทา
- ระยะเวลาออกดอก เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม
ช่อดอกมะค่าโมง
ภาพจาก Facebook: Dong Nai Biosphere Reserve. (2561, 9 เมษายน).
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.763286540536678&type=3
ดอกมะค่าโมง
ภาพจาก : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. (2561, 31 พฤษาคม).
https://th-th.facebook.com/DNP1362/posts/2854544478193775/
https://th-th.facebook.com/DNP1362/posts/2854544478193775/
- ผล เป็นฝักแบน รูปขอบขนาน กว้าง 7-9 เซนติเมตร ยาว 12-20 เซนติเมตร หนา 0.6-1 เซนติเมตร ผิวเปลือกเรียบไม่มีหนาม เปลือกแข็งหนาเป็นเนื้อไม้ ปลายเป็นจงอยสั้น ๆ ฝักอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่มีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ พอแห้งแตกออกเป็น 2 ซีก ด้านในมีเมล็ด 2-5 เมล็ด รูปรี ยาว 2.5-3 ซม. สีดำ ผิวมัน มีเนื้อหุ้มเป็นรูปถ้วยสีเหลืองสดที่โคนเมล็ด ลักษณะรูปทรงคล้ายกับฟันคน จึงเรียกว่า ฟันฤๅษี

ผล (ซ้ายมือ): ภาพโดย นัชรี อุ่มบางตลาด. (2565)
ผล (ขวามือ : ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. (2561, 31 พฤษาคม).
https://th-th.facebook.com/DNP1362/posts/2854544478193775
มีถิ่นกําเนิดในประเทศเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และอินเดีย รวมถึงประเทศไทยซึ่งพบได้มากตั้งแต่ระดับความสูง 150-650 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล พบแพร่กระจายทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง พบมากในทุกภาคโดยเฉพาะภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ ยกเว้นภาคใต้
10. การปลูกและการขยายพันธุ์
วิธีที่ได้รับความนิยมและสะดวกมากที่สุด คือ การการเพาะเมล็ด แต่เนื่องจากเมล็ดของมะค่าโมงจะมีเปลือกที่แข็งมาก ทำให้เกิดการงอกที่ช้าและใช้เวลานาน ดังนั้นก่อนนำเมล็ดไปเพาะควรขลิบเปลือกของเมล็ดตรงส่วนหัวออกก่อน เพื่อให้เห็นเนื้อด้านในเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นนำไปแช่น้ำเป็นระยะเวลาหนึ่งคืน แล้วจึงนำไปเพาะ ต้นมะค่าโมง อายุ 1 ปี จะมีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 2.5 เมตร และโดยทั่วไปการขยายตัวของเส้นรอบวงจะน้อยกว่า 1 เซนติเมตรต่อปี มะค่าโมงที่มีเหมาะสมสำหรับใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างคือ มีอายุประมาณ 25-30 ปีขึ้นไป
11. การใช้ประโยชน์
มะค่าโมงมีเนื้อไม้ที่แข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายของเนื้อไม้ที่สวยงาม โดยเนื้อไม้จะมีสีน้ำตาลอมแดง นิยมนำไปใช้แปรรูปเป็นไม้แผ่นปูพื้น ไม้วงกบ ทำเสาบ้าน ฯลฯ และทำเฟอร์นิเจอร์ เปลือกของมะค่าโมงจะมีรสฝาด นิยมใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง นอกจากนี้ ส่วนลำต้น เปลือกต้น ราก และเมล็ด ยังมีสรรพคุณทางยาด้วย เปลือกของลำต้น สามารถนำมาต้มดื่ม ใช้สำหรับเป็นยาถ่ายพยาธิยา รักษาโรคริดสีดวง ยาแก้อาการท้องเสีย และรักษาโรคบิดนอกจากนั้นยังสามารถรักษาโรคผิวหนัง หรือใช้ทาเป็นยารักษาแผลพุพองต่างๆ ได้ ส่วนเมล็ด นำมาต้มดื่มหรือนำเนื้อเมล็ดดิบมาหั่นเป็นฝอยต้มดื่ม ช่วยบรรเทาอาการอาเจียนได้
ต้นมะค่าโมงในสถาบัน กศน.ภาคเหนือ สามารถพบเห็นได้บริเวณพื้นที่ระหว่างอาคารอำนวยการและอาคารสัมมนา ส่วนในช่วงเดือนสิงหาคม เป็นฤดูที่ฝักและเมล็ดร่วงเกลื่อนพื้น ให้ได้สัมผัสกันตรง ๆ ทีเดียว
เรียบเรียง:
แก้วตา ธีระกุลพิศุทธฺ์ ครู ชำนาญการพิเศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนือ
อ้างอิง:
เกษตร ทูเดย์. มะค่าโมง ไม้ยืนต้น มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เนื้อไม้สีสวย แข็งแรงทนทาน. https://kaset.today/พันธุ์ไม้/มะค่าโมง/
ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. มะค่าโมง. http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=260
ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์. (ม.ป.ป.). มะค่าโมง. http://www.qsbg.org/database
/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?botanic_id=964 964
สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ประเทศไทย). (ม.ป.ป.) มะค่าโมง. https://adeq.or.th/มะค่าโมง/
ส่วนส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ สำนักเศรษฐกิจการป่าไม้. (ม.ป.ป.). มะค่าโมง Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib. https://site-matching.forest.go.th/plant.php?id=13
Puechkaset. (2559, 10 ธันวาคม). มะค่าโมง สรรพคุณ และการปลูกมะค่าโมง.https://puechkaset.com/มะค่าโมง/



