ในการเดินทางมาอำเภอแจ้ห่ม หากเดินทางมาจากอำเภอเมืองลำปาง ท่านสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร โดยในช่วงรอยต่อระหว่างอำเภอเมืองลำปางกับอำเภอแจ้ห่ม ท่านจะเห็น “อนุสาวรีย์ปูนา” ตั้งตระหง่านอยู่ริมทางด้านซ้ายมือ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปูนาและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากปูนา ก็คือ “น้ำปู” หรือภาษาเหนือเรียกว่า “น้ำปู๋” ซึ่งตรงกับคำขวัญประจำอำเภอแจ้ห่มที่กล่าวไว้ว่า
“พญาคำลือคู่บ้าน มะขามหวานคู่เมือง เงาพระธาตุลือเลื่อง เมืองน้ำปู๋ดี”
อนุสาวรีย์ปู อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
ภาพจาก feel-donlinenews.com/2020/09/12/เปิดแล้วเทศกาล-กินปู-ดู/
นางดวงพร ประมาณ ภูมิปัญญาการทำน้ำปู บ้านใหม่เหล่ายาว อำเภอแจ้ห่ม
ภาพโดย: กศน.อำเภอแจ้ห้ม
นางดวงพร ประมาณ ภูมิปัญญาการทำน้ำปู บ้านใหม่เหล่ายาว หมู่ 8 ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ที่ได้สืบสานการทำน้ำปูมาจากพ่อ แม่ และปู่ ย่า ตา ทวด จนทำให้เกิดแนวคิดว่าจะต้องเป็นผู้เรียบเรียงขั้นตอนการทำน้ำปูนี้ไว้ให้กับชนรุ่นหลังได้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับภูมิปัญญาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นประเภทอาหารคือ “น้ำปู๋ดีที่แจ้ห่ม” อีกทั้ง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ดังคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “พญาลือคู่บ้าน มะขามหวานคู่เมือง เงาพระธาตุลือเลื่อง เมืองน้ำปู๋ดี” โดยได้เรียบเรียงวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ทำน้ำปูส่วนผสมและขั้นตอน รวมถึงวิธีการเก็บรักษาน้ำปูไว้ดังนี้
วัสดุ อุปกรณ์ในการทำน้ำปู
- ผ้าขาวบาง
- ทัพพี
- กระชอน
- กะละมัง
- ช้อน
- ถังน้ำ
- หม้อดิน
- เตาอั้งโล่
- ฟืน
- ครกหรือเครื่องบด (เครื่องปั่น)
ส่วนผสม
- ปูนา 2 กิโลกรัม
- ใบข่า 200 กรัม
- ใบขมิ้น 200 กรัม
- ใบฝรั่ง 5 ยอด
- ใบตะไคร้ 200 กรัม
- หัวตะไคร้ 500 กรัม
- เกลือ 200 กรัม
- น้ำ 5 ลิตร
ขั้นตอนการทำน้ำปู
1. การเตรียมปูนาเพื่อใช้ในการทำน้ำปู๋
เมื่อได้ปูนามาแล้ว นำมาขังในภาชนะและเติมน้ำเล็กน้อยไว้หนึ่งคืน เพื่อให้สิ่งสกปรก ดินโคลน หลุดออกจากตัวปูนา จากนั้นก็จะนำปูนามาล้างด้วยน้ำสะอาดประมาณ 5-6 ครั้ง หรือจะล้างจนน้ำใสก็ได้ เพื่อล้างเอาดินโคลนที่ติดตามตัวปูออกให้หมด
การเตรียมปูนา
ภาพโดย กศน. อำเภอแจ้ห่ม
นำปูนาที่ล้างสะอาดแล้วนำไปปั่นหรือโขลกให้ละเอียด ในอดีตไม่มีเครื่องบดจึงใช้การตำด้วยครกหรือกระบอกไม้ซาง ในการโขลกปูนี้จะเติมใบฝรั่งเพื่อให้น้ำปู๋ที่ทำสำเร็จออกมามีสีดำสวย และใส่ใบข่า ใบตะไคร้ และใบขมิ้น เพื่อลดกลิ่นคาวของปู โดยเก็บใบพืชดังกล่าวมาล้างให้สะอาดแล้วหั่นยาวเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อโขลกให้ละเอียดได้ง่ายขึ้น ตำส่วนผสมทุกอย่างให้ละเอียด
การโขลกหรือปั่นปูด้วยเครื่องปั่นให้ละเอียด
ภาพโดย กศน. อำเภอแจ้ห่ม
3. การกรองน้ำปู
การกรองน้ำปู เป็นการกรองเพื่อนำกากปูแยกออกมาจากน้ำปู โดยนำปูที่โขลกแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนที่มีรูขนาดเล็ก เพื่อไม่ให้กากปูติดไปด้วย เพราะจะทำให้น้ำปู๋ออกมาไม่ละเอียด ในการกรองหรือปั้นกากปูให้เหลือแต่น้ำนั้น จะใช้น้ำสะอาดเติมไปด้วยขณะกรอง เพื่อช่วยล้างเอาเนื้อและไขมันของปูลงไปกับน้ำ หลังจากที่กรองเสร็จ นำกากปูที่ได้มาตำซ้ำอีก 2-3 ครั้งแล้วนำไปกรองอีกครั้ง ให้เหลือแต่กากปูก็นำไปทิ้งได้ ในส่วนของน้ำที่กรองได้นั้นจะเกิดปฏิกิริยา ช่วงนี้เรียกน้ำปูที่ได้ว่า “น้ำปูดิบ”
การกรองน้ำปู
ภาพโดย กศน. อำเภอแจ้ห่ม
กระบวนการหมักน้ำปู เป็นขั้นตอนหนึ่งในการถนอมอาหาร ต่อจากการกรองน้ำปู ซึ่งการผลิตน้ำปูของชาวแจ้ห่มจะผลิตได้ช่วงฤดูฝน เนื่องจากในนาข้าวมีปูนามากัดกินต้นข้าว การจับปูนามาทำน้ำปูจึงถือว่าเป็นการกำจัดศัตรูพืชที่มีประโยชน์อีกทางหนึ่งของชาวนา กระบวนการหมักน้ำปู พบว่า ความแตกต่างของสีและกลิ่นน้ำปู ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของวัตถุดิบและสมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนผสม ซึ่งมีการถ่ายทอดภูมิปัญญาองค์ความรู้ขั้นตอนการหมักในเรื่องส่วนประกอบที่มีผลต่อสี กลิ่น และการปรุงรสชาติของน้ำปู โดยมีสวนผสมหลักของน้ำปู ได้แก่ ปูนา ตะไคร้ โดยขั้นตอนการหมักน้ำปูเป็นขั้นตอนต่อเนื่องจากการกรองน้ำปู เมื่อกรองน้ำปูเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำน้ำปูดิบ ใส่ในหม้อที่จะใช้เคี่ยวหรือต้ม ซึ่งนิยมใช้หม้อดินใบใหญ่ทรงสูงสำหรับใช้ต้มน้ำปูโดยเฉพาะ เติมเกลือป่นลงในน้ำปูหลังกรองเสร็จแล้ว 1 กำมือ ในขั้นตอนการหมักนี้จะนำน้ำปูใส่ถุงพลาสติกใช้ยางรัดปากถุงไว้ให้มิดชิดก่อนนำใส่หม้อ เป็นการป้องกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย นิยมใช้หม้อดินใบใหญ่ทรงสูงสำหรับใช้ทำน้ำปูโดยเฉพาะ หมักทิ้งไว้ 1 คืน เป็นการหมักเพื่อให้ปูและส่วนผสมต่าง ๆ ที่โขลกไว้มีรสชาติที่กลมกล่อมและเป็นเนื้อเดียวกัน
5. การต้มหรือเคี่ยวน้ำปู
เป็นการทำให้น้ำปูข้นเหนียวใช้รับประทานได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องคอยเอาใจใส่ตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มต้นจนแห้งได้ที่พอดี เริ่มจากไฟที่ใช้เคี่ยวจะใช้ฟืนหรือถ่านก็ได้ แต่ไม่นิยมเคี่ยวด้วยแก๊ส ในช่วงแรกของการต้มจะใช้ไฟแรงต้มจนน้ำเดือด ต้องคอยดูว่าช่วงต้มแรก ๆ นี้ น้ำปูจะมีฟองอืดขึ้นมากต้องคอยคนให้ฟองแตก ไม่เช่นนั้นฟองจะล้นหม้อ เมื่อน้ำปูเดือดแล้วฟองก็จะหายไป จะต้องคอยเติมไฟให้ลุกสม่ำเสมอหรือใช้ไฟกลางเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนคนแล้วรู้สึกหนักมือ แล้วจึงปรุงรส
เป็นการทำให้น้ำปูข้นเหนียวใช้รับประทานได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องคอยเอาใจใส่ตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มต้นจนแห้งได้ที่พอดี เริ่มจากไฟที่ใช้เคี่ยวจะใช้ฟืนหรือถ่านก็ได้ แต่ไม่นิยมเคี่ยวด้วยแก๊ส ในช่วงแรกของการต้มจะใช้ไฟแรงต้มจนน้ำเดือด ต้องคอยดูว่าช่วงต้มแรก ๆ นี้ น้ำปูจะมีฟองอืดขึ้นมากต้องคอยคนให้ฟองแตก ไม่เช่นนั้นฟองจะล้นหม้อ เมื่อน้ำปูเดือดแล้วฟองก็จะหายไป จะต้องคอยเติมไฟให้ลุกสม่ำเสมอหรือใช้ไฟกลางเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนคนแล้วรู้สึกหนักมือ แล้วจึงปรุงรส
การต้มหรือเคี่ยวน้ำปู
ภาพโดย กศน. อำเภอแจ้ห่ม
6. การปรุงรสน้ำปู
การปรุงรสชาติของน้ำปูให้มีความเข้มข้นอร่อยขึ้น โดยเติมเกลือเล็กน้อย อาจมีการใส่ผงชูรสเพื่อทำให้น้ำปูที่ได้นั้นมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น เมื่อปรุงรสแล้วเคี่ยวต่อด้วยไฟกลางถึงอ่อน จนน้ำปูข้นเหนึยวขึ้นเรื่อย ๆ ให้ตักขึ้นมาทดลองหยด ถ้าเหนียวจนหยดไม่ลงก็เป็นอันใช้ได้ เมื่อน้ำปูใกล้แห้งได้ที่แล้วจะจับกันเป็นก้อนสีดำ
น้ำปูที่เคี่ยวได้ที่แล้ว
ภาพโดย กศน. อำเภอแจ้ห่ม
จากขั้นตอนการทำ “น้ำปู” จะเห็นได้ว่ามีขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างมีความละเอียด เพราะถ้าไม่ถูกต้องตามขั้นตอนแล้วนั้น อาจทำให้น้ำปูที่ได้ออกมา มีรสชาติไม่อร่อย และไม่ได้คุณภาพ เทคนิคสำคัญในการเคี่ยวต่อให้แห้งจนเหนียว ผู้ทำน้ำปูต้องคนและดูแลไฟอย่างใกล้ชิด ใช้ไฟอ่อน ๆ ถ้าไฟแรงจะทำให้น้ำปูไหม้
วิธีการเก็บรักษาน้ำปู
น้ำปูของบ้านหนองนาว เป็นน้ำปูที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านอย่างแท้จริง ทำจากปูนาสด เป็นการถนนอมอาหารเพื่อเก็บไว้กินได้นาน 1-2 ปี โดยที่ไม่ใส่สารกันบูด ไม่มีสารเคมีเจือปน ไม่ใส่สีผสมอาหาร และสามารถนำไปเป็นเครื่องปรุงรสของอาหารที่หลากหลาย ทำให้อาหารมีรสชาติที่แปลกใหม่ออกไป ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาน้ำปู ดังนี้
- บรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด สะอาด ปลอดภัย
- เก็บรักษาไว้ในที่ร่ม พ้นแสงแดด หรือ เก็บไว้ในตู่เย็น เพื่อให้มีอายุนานมากขึ้น
การเก็บรักษาน้ำปูโดยการบรรจุภาชนะปิดฝาให้มิดชิด
ภาพโดย: กศน. อำเภอแจ้ห่ม
เขียน/เรียบเรียง: อรวรรณ ฟังเพราะ ครู ชำนาญการพิเศษ สถาบัน กศน.ภาคเหนือ
อ้างอิง:
น้ำปู (น้ำปู๋) ของดีแจ้ห่ม จ.ลำปาง. (2560, 17 ตุลาคม). ลานนาโพสต์. https://www.lannapost.com/content/617b82c9abdd4eaa9de02fb0
มา “แจ้ห่ม” กิ๋นน้ำปู๋ ดูวัด ดูเวียง. (2563, 22 กันยายน). เชียงใหม่เพลส. https://chiangmaipress.com/2020/09/22/มา-แจ้ห่ม-กิ๋นน้ำปู๋-ดูว/
หนังสือเรียนรายวิชาเลือก รายวิชาการทำน้ำปู [เอกสารที่ไม่ได้ตีพิมพ์]. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอแจ้ห่ม, สำนักงาน กศน.จังหวัดลำปาง.