ความรักจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากเราไม่รู้จักกัน? สวัสดีทุกท่าน และขอขอบคุณที่ให้ความสนใจและเข้ามาอ่านบทความของเราในวันนี้ ก่อนอื่นใด ความรักคือสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ใดในโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีความรักที่สวยงามด้วยกันทั้งสิ้น ชาติพันธุ์ม้งก็เช่นกัน วันนี้เราจะนำทุกท่านไปรู้จักกับวัฒนธรรมม้งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความหวังของคนหนุ่มสาวในการหาคู่ครอง นั่นคือ การละเล่นโยนลูกช่วงในวันขึ้นปีใหม่
การละเล่นลูกช่วงของชาวม้ง
ภาพจาก https://hmongscity.com/2014/11/15/การละเล่นลูกช่วงpov-khaub-hnab/#
การละเล่นโยนลูกช่วง
ภาพจาก Facebook เรื่องสร้างภาพขอให้บอก
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.445811282990478&type=3
ลูกช่วง (Pob) เป็นลูกทรงกลมขนาดเท่ากับลูกเทนนิส ทำจากเศษผ้าเหลือใช้ในบ้าน เมื่อใกล้ถึงช่วงเทศกาลฉลองปีใหม่ หญิงสาวชาวม้งจะนำเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บชุดม้งมาทำเป็นลูกช่วง โดยนำเศษผ้ามาม้วนพันกันจนได้ลูกทรงกลมขนาดพอดีมือ จากนั้นนำผ้าอีกชิ้นหนึ่งมาห่อเป็นชั้นนอก และเย็บปิดให้เรียบร้อย
ลักษณะของลูกช่วง
ภาพโดย นายจือ แซ่ลี
งานเทศกาลปีใหม่ ของชาติพันธุ์ม้ง อ.ปัว จ.น่าน
ภาพจาก บทความเรื่อง https://thecitizen.plus/node/37589
การละเล่นโยนลูกช่วง นอกจากการจับคู่โยนชายหนึ่งหญิงหนึ่งแล้ว ยังสามารถจับคู่โยนหญิงสองชายหนึ่ง หรือหญิงหนึ่งชายสองก็ได้ ขึ้นอยู่ความพึงพอใจของการโยนแต่ละบุคคล เนื่องจากบางคนอาจมากับเพื่อนหรือญาติพี่น้อง หรือบางคนอาจรู้สึกเขินอายหากต้องโยนกันตัวต่อตัว ดังนั้นจึงไม่มีกฎตายตัวว่าต้องจับคู่กันโยนกี่คน และก็ไม่มีการจำกัดอายุของหนุ่มสาวที่มาโยนลูกช่วงด้วย แต่หนุ่มสาวที่มาโยนลูกช่วง ส่วนใหญ่มักจะเป็น คน “โสด” ที่ต้องการมาหาคู่ครองจากงานนี้ ซึ่งคำว่า “โสด” ในที่นี้ ไม่ได้หมายความเพียงผู้ที่ยังไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อน แต่ยังรวมถึงพ่อหม้ายแม่หม้าย หรือพ่อร้างแม่ร้าง ด้วย
เราจำเป็นต้องรักและแต่งงานกับคู่โยนลูกช่วงของเราหรือไม่ ?
ไม่จำเป็นครับ การโยนลูกช่วงเป็นเพียงขั้นตอนของการทำความรู้จักกันเท่านั้น ซึ่งทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีอิสระในการเลือกคู่ครองที่ตนเองพอใจเท่ากัน และเนื่องจากงานฉลองปีใหม่ม้งไม่ได้จัดเพียงวันเดียว โดยทั่วไปจะจัดกัน 3-4 วัน ดังนั้น เราสามารถโยนลูกช่วงกับคนที่เราสนใจได้มากกว่าหนึ่งคน และไม่จำเป็นว่าต้องคบกับใครคนใดคนหนึ่ง หรือทุกคนที่เราโยนลูกช่วงด้วยในปีนั้น หมายความว่า บางคนอาจได้ แฟน หรือ คู่ครอง จากงานในปีนี้ และบางคนอาจยังคงโสดต่อไปอีกหนึ่งปี สองปี หรือสามปี ก็ได้
การละเล่นโยนลูกช่วงไม่เพียงแต่ช่วยให้คนหนุ่มสาวชาวม้งได้มีโอกาสเลือกคู่ครองของตัวเองเท่านั้น และยังเป็นการลดความกังวลของพ่อแม่เกี่ยวกับการละเมิดธรรมเนียม ประเพณี และความเชื่อที่รักษาและสืบทอดต่อกันมาแต่บรรพบุรุษด้วย นอกจากนี้ การที่ให้ชายหนุ่มหญิงสาวยืนห่างกันในระหว่างโยนลูกช่วง ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นระยะที่พอดีสำหรับการโยนลูกช่วงเท่านั้น แต่ยังเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ไม่ให้ชายหนุ่มหญิงสาวที่ยังไม่รู้จักกันดีอยู่ใกล้ชิดกันจนเกินไป ขณะเดียวกันก็เป็นการป้องกันไม่ให้วัยรุ่นไฟแรงเกิดอารมณ์พลุ่งพล่านเมื่ออยู่ใกล้กับเพศตรงข้ามด้วย นับว่าเป็นกิจกรรมเกี้ยวพาราสีที่ยอดเยี่ยมและรอบคอบมากจริง ๆ
ไม่จำเป็นครับ การโยนลูกช่วงเป็นเพียงขั้นตอนของการทำความรู้จักกันเท่านั้น ซึ่งทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีอิสระในการเลือกคู่ครองที่ตนเองพอใจเท่ากัน และเนื่องจากงานฉลองปีใหม่ม้งไม่ได้จัดเพียงวันเดียว โดยทั่วไปจะจัดกัน 3-4 วัน ดังนั้น เราสามารถโยนลูกช่วงกับคนที่เราสนใจได้มากกว่าหนึ่งคน และไม่จำเป็นว่าต้องคบกับใครคนใดคนหนึ่ง หรือทุกคนที่เราโยนลูกช่วงด้วยในปีนั้น หมายความว่า บางคนอาจได้ แฟน หรือ คู่ครอง จากงานในปีนี้ และบางคนอาจยังคงโสดต่อไปอีกหนึ่งปี สองปี หรือสามปี ก็ได้
การละเล่นโยนลูกช่วง
ภาพจาก Facebook เรื่องสร้างภาพขอให้บอก
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.445811282990478&type=3
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสังคมม้งจะเคร่งครัดในการปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีมากเพียงไร แต่ก็ยังให้อิสระเต็มที่กับเรื่องของความรักด้วย แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงปีละครั้งเท่านั้น แต่การเฝ้ารอจนกว่าจะถึงวันนั้นก็คุ้มค่ามากจริง ๆ และ ถึงแม้ว่าความรักจะเป็นเรื่องของความรู้สึกและโชคชะตา แต่การสร้างโอกาสให้กับโชคชะตาก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน
เริ่มต้น ปีใหม่ ด้วย ความรักใหม่ ค้นหาคนของหัวใจด้วยการละเล่นโยนลูกช่วง
เขียน/เรียบเรียง : วนศาสตร์ วัฒนาสกุลลี ครูผู้ช่วย สถาบัน กศน. ภาคเหนือ