ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ และโรคโควิด-19

เชื้อไวรัสโคโรนา เมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนจะเห็นว่าไวรัสชนิดนี้มีลักษณะคล้ายมงกุฎ จึงเรียกว่า “โคโรน่า (Corona)” ซึ่งในภาษาละดินมีความหมายว่ามงกุฎ เป็นกลุ่มสายพันธ์ที่มีความหลากหลาย มีเชื้อไวรัสหลาย ๆ ชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไข้หวัด และอาจทำให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรง จนกระทั่งเสียชีวิตได้ ซึ่งที่ผ่านมาโรคเมอร์ส และโรคซาร์ส ที่เคยแพร่ระบาดก็มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกัน


ภาพจำลองไวรัสโคโรนา

COVID-19
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่เคยพบว่ามนุษย์สามารถติดเชื้อชนิดนี้ได้มาก่อน เมื่อติดเชื้อแล้วจะทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ องค์การอนามัยโลกได้ตั้งชื่อเป็นทางการให้กับโรคที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า COVID-19 ซึ่งย่อมาจาก
• CO แทน corona
• VI แทน virus
• D แทน disease
• 19 แทน ปี 2019 (โรคติดเชื้อนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2019)

ที่มาของโรค
ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบชัดเจนถึงแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก่อนหน้านี้มีการสันนิษฐานว่า ไวรัสชนิดนี้อาจเริ่มติดต่อจากสัตว์ป่ามาสู่คน โดยมีต้นตอของการแพร่ระบาดจากงูเห่าจีน (Chinese cobra) และงูสามเหลี่ยมจีน (Chinese krait) ที่นำมาวางจำหน่ายในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่พบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรก ๆ

ทีมผู้วิจัยสันนิษฐานว่า งูอาจเป็นสัตว์ตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่คน เนื่องจากงูพิษที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติล่าค้างคาวในถ้ำเป็นอาหาร แต่ก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสามารถปรับตัวให้อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ในร่างกายของทั้งสัตว์เลือดเย็นและสัตว์เลือดอุ่นได้อย่างไร

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
  • แพร่ระบาดโดยตรง ผ่านละอองสารคัดหลั่งในระยะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เช่น จาม ไอ หรือพูดคุย
  • แพร่ระบาดโดยการสัมผัส ละอองสารคัดหลั่งที่เกาะอยู่ตามพื้นผิววัสดุ หรือเมื่อสัมผัสโดนตัวหรือจับต้องใช้งาน หลังจากนั่นนำไปสัมผัสที่ปาก จมูก หรือดวงตา จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • การแพร่ระบาดโดยผ่านทางอากาศ เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมแบบปิดเป็นเวลานาน และมีปริมาณละอองของไวรัสเข้มข้นสูง ก็อาจเกิดการแพร่เชื้อได้เช่นกัน
อาการผู้ติดเชื้อ COVID-19
  • องค์การอนามัยโลกระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะมีอาการเริ่มแรกคือ มีไข้ ตามมาด้วยอาการไอแห้ง ๆ หลังจากนั้นราว 1 สัปดาห์จะมีปัญหาหายใจติดขัด ผู้ป่วยอาการหนักจะมีอาการปอดบวมอักเสบร่วมด้วย หากอาการรุนแรงมากอาจทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว
  • ผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 จะมีอาการเช่นเดียวกับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยจะแสดงอาการตั้งแต่ระดับความรุนแรงน้อย ไม่ว่าจะเป็น การคัดจมูก เจ็บคอ ไอ และมีไข้ บางรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการปอดบวมหรือหายใจลำบากร่วมด้วย บางรายก็รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ
  • มีไข้ (88%)
  • ไอแห้งๆ (68%)
  • ไม่มีเรี่ยวแรง (38%)
  • ไอแบบมีเสมหะ (33%)
  • หายใจลำบาก (18%)
  • เจ็บคอ (14%)
  • ปวดหัว (14%)
  • ปวดกล้ามเนื้อ (14%)
  • หนาวสั่น (11%)
  • คลื่นไส้และอาเจียน (5%)
  • คัดจมูก (5%)
  • ท้องเสีย (4%)
  • ทั้งนี้ หากมีน้ำมูกไหล ไม่ใช่อาการโควิด -19

เรียบเรียง :
นัชรี อุ่มบางตลาด ครูชำนาญการ สถาบัน กศน.ภาคเหนือ

อ้างอิง :

คณะกรรมการสุขภาพแห่งมณฑลหยุนหนาน, มหาวิทยาลัยกรแพทย์คุณหมิง, สถาบันการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ มณฑลหยุนหนาน. (2563). คู่มือป้องกันโรคโควิด-19. สืบค้นจาก 
http://อสม.com/matters /download/752

ทีมกรุงเทพธุรกิจออนไลน์. (2563, 12 มีนาคม). รู้จักไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ฉบับรวบรัด. กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. สืบค้นจาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/870292