สุภาษิตล้านนา : คำสอน อุปมา

จิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน

คำอุปมา : กำอู้นักผาชญ์เหมือนดาบสองคม กำอู้คนง่าวงม เหมือนลมปั๊ดป๋ายไม้
คำแปล : คำพูดนักปราชญ์เหมือนดาบสองคม คำพูดคนโง่งมเหมือนลมพัดปลายไม้
ความหมาย : คำพูดนักปราชญ์ฟังแล้วแปลความไม่ถูกต้องหรือเอาไปใช้ผิดๆก็เกิดโทษได้ คำพูดของคนโง่จะไม่เกิดผลใด ๆ เหมือนลมพัดยอดไม้แค่โยกไหวเล็กน้อยไม่ทำให้กิ่งไม้หักได้


คำอุปมา : แก๋งจ๋างกึ๊ดถึงเกลื๋อ หนูขบเสื้อกึ๊ดถึงแมว
คำแปล : แกงจืดคิดถึงเกลือ หนูกัดเสื้อคิดถึงแมว
ความหมาย : ต่อเมื่อเกิดเหตุเดือดร้อน จำเป็น จึงจะนึกถึงผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลือ


คำอุปมา : กว๋างฟานต๋ายเหล่าเก่า งูเห่าต๋ายฮูเดิม
คำแปล : กวางเก้งตายแหล่งเก่า งูเห่าตายรูเดิม
ความหมาย : กวาง เก้งมักไม่เปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง จะอยู่ในป่าเดิม ๆ เหมือนงูเห่าก็มักจะไม่เปลี่ยนรูง่าย ๆ นักล่าจะรู้และล่าได้ง่าย เป็นคำสอนว่าถ้าทำอะไรแล้ว ไม่รู้จักปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมักจะไม่ได้ผลงานที่ดี


คำอุปมา : ข้ามน้ำหลายต้า ข้าวหม่าหลายเมือง
คำแปล : ข้ามน้ำหลายท่า ข้าวหม่าหลายเมือง
ความหมาย : ข้ามน้ำหลายท่าหมายถึงการทำอะไรซ้ำ ๆ ทำให้เสียเวลาเหนื่อยเปล่า
ข้าวหม่าหลายเมือง คือการที่เอาข้าวที่แช่จากที่ต่าง ๆ มารวมกันแล้วนึ่ง จะสุกไม่พร้อมกัน เปรียบเหมือนเอาคนที่มีศีลไม่เสมอกันหรือคนที่ความคิดไม่ลงรอยกันมาทำงานด้วยกันจะใช้เวลานานกว่างานจะสำเร็จ


คำอุปมา : ข้าวลีบมันตึงบ่งอก
คำแปล : ข้าวลีบยังไงก็ไม่งอก
ความหมาย : คนที่พื้นฐานไม่ดี หรือต้นทุนไม่มี ทำอย่างไรก็ไม่มีโอกาสได้เติบโต


คำอุปมา : คนหลับลุกเจ๊ากิ๋นผักยอดป๋าย คนหลับลุกขวายกิ๋นผักยอดเก๊า
คำแปล : คนตื่นเช้ากินผักปลายยอด คนตื่นสายกินผักส่วนโคน
ความหมาย : คนที่ตื่นแต่เช้าไปเก็บผักก่อนก็จะเลือกเด็ดเอายอดอ่อน ๆ คนตื่นสายไปเก็บทีหลังก็จะเหลือแต่ส่วนโคน เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นว่า คนที่ขยันกระตือรือร้นก็จะได้รับโอกาสที่ดีกว่า คนที่ขี้เกียจ เชื่องช้าก็จะได้สิ่งที่เหลือจากคนอื่นเท่านั้น


คำอุปมา : คว่ำมือเป๋นลาย หงายมือเป๋นดอก
คำแปล : คว่ำมือเป็นลาย หงายมือเป็นดอก
ความหมาย : คนที่มีความชำนาญทำอะไรก็เป็นผล


คำอุปมา : งาจ้างหักขำเศิก นอนหลับเดิกก็บ่เสียก๋าน
คำแปล : งาช้างหักคาศึก นอนหลับดึกก็ไม่เสียงาน
ความหมาย : สิ่งของหรือเวลาที่สูญเสียไปแต่ก็ก่อให้เกิดประโยชน์


คำอุปมา : งูจะขบล่นหาค้อน เผื่อฮู้คิงน้ำปิงปอแห้ง
คำแปล : งูจะกัดวิ่งหาฆ้อน กว่าจะรู้สึกตัวแม่น้ำปิงก็แห้งไปแล้ว
ความหมาย : ไม่มีความระมัดระวังหรือเตรียมการไว้ก่อน กว่าจะรู้สึกตัวหรือคิดได้ ก็สายเสียแล้ว


คำอุปมา : จะหามก้ออาย จะสะปายก้อหนัก
คำแปล : จะหามก็อาย จะสะพายก็หนัก
ความหมาย : คนไม่เอาการเอางานอะไรก็ไม่ทำ ทำนองเดียวกับหนักไม่เอาเบาไม่สู้


คำอุปมา : จักกิ๋นก้อขี้จ๊ะ จักละก้อเสียดาย
คำแปล : จะกินก็รังเกียจ จะทิ้งก็เสียดาย
ความหมาย : การตกอยู่ในภาวะเลือกไม่ได้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก


คำอุปมา : จ๋ำลงน้ำก้อว่าตั๋วฟู จ๋ำจ๊กฮูก้อว่าแขนสั้น
คำแปล : ใช้ให้ลงน้ำก็บอกว่าตัวลอย ใช้ให้ล้วงเข้าไปในรูก็บอกว่าแขนสั้น
ความหมาย : คนไม่เอาการเอางาน ให้ทำอะไรก็มีข้ออ้างได้ทุกเรื่อง


คำอุปมา : จ่อมเบ็ดเลี้ยงแขก แบกด้ามไม้เสี้ยงเฮือน
คำแปล : ตกเบ็ดเลี้ยงแขก แบกหน้าไม้หมดบ้าน
ความหมาย : การกระทำใดที่เร่งรีบ เฉพาะหน้าไม่คำนึงถึงความเป็นไปได้ทำให้เสียเวลาเปล่า (ตกเบ็ดเพื่อจะเอาปลาไปเลี้ยงแขกเมื่อไหร่จะได้กิน เช่นเดียวกับแบกหน้าไม้ไปซุ่มยิงสัตว์จะได้หรือไม่ก็ไม่รู้)


คำอุปมา : น้ำบ่เต๋มต้นมันตึงสว่ายดัง
คำแปล : น้ำไม่เต็มคนโทเขย่ามันจะมีเสียงดัง
ความหมาย : คนโทที่มีน้ำไม่เต็มเวลาเขย่ามันจะมีเสียง ถ้าน้ำเต็มคนโทเขย่าจะไม่มีเสียง เป็นการเปรียบเทียบว่าคนมีความรู้ไม่มากมักจะพูดมาก คนที่เขามีความรู้มากมักจะไม่ค่อยพูด


คำอุปมา : น้ำเย็นปล๋าข้อน น้ำฮ้อนปล๋าหนี
คำแปล : น้ำเย็นปลาชุม น้ำรัอนปลาหนี
ความหมาย : บริเวณไหนที่น้ำเย็นปลาจะไปกระจุกตัวอยู่ แต่ที่ไหนน้ำร้อนปลาจะว่ายหนีหมด เปรียบได้กับที่ไหนมีความสงบสุข ผู้คนจิตใจดีเป็นมิตรใครก็อยากไปอยู่ แต่ที่ไหนหรือบุคคลใดที่อยู่ใกล้แล้วไม่สงบสุข ไม่สบายใจ ก็ไม่มีใครอยากอยู่ด้วย


คำอุปมา : หน่วยนักหนักกิ่ง กำกึ๊ดยิ่งหนักใจ๋
คำแปล : ลูกผลมากหนักกิ่ง ความคิดยิ่งหนักใจ
ความหมาย : ไม้ผลหากมีลูกดกก็จะทำให้กิ่งรับน้ำหนักมาก เหมือนความคิดของคน ยิ่งคิดมากก็ยิ่งหนักใจ เปรียบได้กับคนเรา ถ้าไม่ปล่อยวางหรือปลงให้ตก ก็ต้องแบกรับความทุกข์เอาไว้


คำอุปมา : บ่มีฝาย ข้าวจ้างต๋ายแดด
คำแปล : ไม่มีฝาย ข้าวมักตายเพราะแดด
ความหมาย : หากไม่มีฝายก็ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว พอโดนแสงแดดเผาข้าวก็จะตาย ความหมายก็คือ ถ้าไม่มีสิ่งที่มาเกื้อหนุนก็มักจะไปไม่รอด


คำอุปมา : ไม้เล่มเดียวบ่เป๋นก๋อ ป๋อต้นเดียวบ่เป๋นเหล่า
คำแปล : ไม้เล่มเดียวไม่เป็นกอ ปอต้นเดียวไม่เป็นป่า
ความหมาย : ไม้ไผ่เพียงลำเดียวไม่สามารถเป็นกอได้ เช่นเดียวกับต้นปอต้นเดียวก็เป็นป่าไม่ได้ เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นว่า การอยู่โดยไม่ปฏิสัมพันธ์ ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ในที่สุดก็จะโดดเดี่ยวไม่มีพรรคไม่มีพวก


คำอุปมา : หมาบ่เห่าบ่ดีเปี๋ยไม้ ลูกบ่ไห้บ่ดีเปิดนม
คำแปล : หมาไม่เห่าไม่ควรคว้าไม้ ลูกไม่ร้องไห้ไม่ควรเปิดนม
ความหมาย : หมายังไม่ทันเห่าไม่ควรคว้าไม้เตรียมจะตีเขา ลูกไม่ร้องไห้หิวนมไม่ควร เปิดเสื้อให้ลูกดูดนม เป็นคำสอนทำนองที่ว่าอย่าทำการใด ๆไว้ก่อนโดย คิดเอาเองว่าจะเกิดสิ่งนั้น ๆ หรืออย่าตีตนไปก่อนไข้


คำอุปมา : อ๊ดส้มได้กิ๋นหวาน อ๊ดสานได้ซ้า
คำแปล : อดเปรี้ยวได้กินหวาน อดทนสานได้ตะกร้า
ความหมาย : ยอมอดทนไม่เก็บผลไม้ที่ยังไม่แก่มากิน รอกินตอนที่สุกจะหวานกว่า เช่นเดียวกับใช้ความมานะอดทนจักสานในที่สุดก็จะได้ตะกร้าไว้ใช้ เป็นการสอนให้รู้จักอดทนและรอคอย ลำบากในวันนี้เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าในวันหน้า


คำอุปมา : อยู่ไปต๋ามน้ำ กระทำไปต๋ามตั๋ว น้ำเปียงใด ดอกบัวเปียงอั้น
คำแปล : อยู่ไปตามน้ำ กระทำไปตามตัว น้ำอยู่เพียงใด ดอกบัวอยู่เพียงนั้น
ความหมาย : เป็นคำสอนเปรียบเปรยว่า อยู่ในสังคมใดให้เป็นไปตามสังคมส่วนใหญ่นั้น ๆ อย่าทำตัวแปลกแยกหรือทำตัวให้เด่นเกินคนอื่น



รวบรวม/เรียบเรียง :
กมลธรรม ชื่นพันธุ์
สถาบัน กศน.ภาคเหนือ