เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานลดลง อัตราการเผาผลาญอาหารลดลงตามอายุที่มากขี้น ทำให้ความต้องการพลังงานลดลง พลังงานที่ผู้สูงอายุควรได้รับอย่างเพียงพอคือ วันละ 1,500 - 2,000 กิโลแคลอรี การรับประทานอาหาร ควรจะได้ให้ครบ 5 หมู่และหลากหลาย เลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณพลังงานน้อยลง และนอกจากการลดปริมาณไขมัน และคาร์โบไฮเดรตแล้ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้พลังงานลดลงได้อีกด้วย
ความต้องการสารอาหารสำหรับผู้สูงอายุลักษณะอาหารสำหรับผู้สูงอายุควรเป็นอาหารให้พลังงานพอเหมาะ แต่มีสารอาหารสูง รสชาติ ไม่รสจัดมาก อ่อนนุ่มเคี้ยวกลืนได้ง่าย ย่อยได้ง่าย นอกจากนี้ต้องมีสุขอนามัยที่ดี
ภาพโดย: katemangostar จาก https://www.freepik.com/photos/food
1. คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน สารอาหารหมู่นี้เป็นอาหารที่ให้พลังงานเป็นส่วนใหญ่ ผู้สูงอายุควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรมากเกินไป ควรเลือกเลือกข้าวกล้อง แป้งไม่ขัดสีให้ได้อย่างน้อย 50% ของปริมาณข้าวแป้งทั้งวัน
ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง เนื้อสัตว์ที่ผู้สูงอายุควรรับประทานคือ เนื้อสัตว์ที่ไม่มีหนังหรือไขมันมากเกินไป ควรรับประทานประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ
- เนื้อสัตว์ ตามปกติผู้สูงอายุบริโภคเนื้อสัตว์ประมาณ วันละ 120-160 กรัม (น้ำหนักขณะดิบ) ปริมาณนี้จะลดลงได้ถ้ามีการบริโภค ไข่ ถั่ว หรือนม เลือกเนื้อสัตว์ที่มีความอ่อนนุ่ม เคี้ยวและย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา หากเป็นเนื้อสัตว์ที่มีความเหนียวให้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ อาจใช้วิธีบดหรือสับ
- ไข่ เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเพราะมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ไข่แดง มีธาตุเหล็กในปริมาณสูง ปกติสามารถรับประทานได้สัปดาห์ละ 3-4 ฟอง แต่ถ้าผู้สูงอายุที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง ควรลดจำนวนลงหรือบริโภคเฉพาะไข่ขาวเท่านั้น
- นมควรเลือกนมพร่องมันเนย/นมขาดมันเนย หากมีอาการท้องเสีย อาจรับประทานโยเกิร์ตแทน
- ถั่วเมล็ดแห้งควรเลือกถั่วหลากหลายสี หากต้มถั่วควรใช้ระยะเวลานานกว่าปกติ ให้ถั่วมีลักษณะ ที่อ่อนนิ่ม เคี้ยวกลืนง่าย
อาหารหมู่นี้นอกจากจะให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกายแล้ว ยังช่วยดูดซึมวิตามินเอ ดี และเค ผู้สูงอายุต้องการไขมันในปริมาณน้อย แต่ก็ขาดไม่ได้ และถ้าบริโภคไขมันมากเกินไป จะทำให้อ้วนไขมันอุดตันในเส้นเลือด นอกจากนั้นยังทำให้เกิดอาการท้องอืดท้อง ท้องเฟ้อ หลังอาหารได้ ควรใช้น้ำมันพืชที่มี กรดไลโนเลอิกปรุงอาหาร เช่น น้ำมันงา น้ำมันมะกอก ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไขมันจากสัตว์
4. วิตามิน และเกลือแร่
วิตามินที่ผู้สูงอายุมักได้รับไม่เพียงพอได้แก่ วิตามีนบี1 บี2 บี6 บี12 ซี และดี ดังนั้นในแต่ละวันผู้สูงอายุควรรับประทานผัก และผลไม้ให้เพียงพอ ส่วนเกลือแร่ที่ผู้สูงอายุต้องการได้แก่ ธาตุเหล็ก ซึ่งพบมากในตับ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ฯลฯและเพื่อให้การดูดซึมดีขึ้น ควรรับประทานผักสด หรือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วยนอกจากนี้ยังมีแคลเซียม แมกนีเซียม เป็นเกลือแร่ที่ร่างกายของผู้สูงอายุ ต้องการเพื่อลดปัญหาจากโรคกระดูกเปราะ ซึ่งพบมากใน นม ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้งผักใบเขียวเข้ม รวมไปถึง สังกะสี เกลือแร่ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายหลายระบบโดยเฉพาะผิวหนังซึ่งมีมากในอาหารทะเล ปลา เป็นต้น
วิตามินที่ผู้สูงอายุมักได้รับไม่เพียงพอได้แก่ วิตามีนบี1 บี2 บี6 บี12 ซี และดี ดังนั้นในแต่ละวันผู้สูงอายุควรรับประทานผัก และผลไม้ให้เพียงพอ ส่วนเกลือแร่ที่ผู้สูงอายุต้องการได้แก่ ธาตุเหล็ก ซึ่งพบมากในตับ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ฯลฯและเพื่อให้การดูดซึมดีขึ้น ควรรับประทานผักสด หรือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วยนอกจากนี้ยังมีแคลเซียม แมกนีเซียม เป็นเกลือแร่ที่ร่างกายของผู้สูงอายุ ต้องการเพื่อลดปัญหาจากโรคกระดูกเปราะ ซึ่งพบมากใน นม ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้งผักใบเขียวเข้ม รวมไปถึง สังกะสี เกลือแร่ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายหลายระบบโดยเฉพาะผิวหนังซึ่งมีมากในอาหารทะเล ปลา เป็นต้น
5. น้ำ ผู้สูงอายุควรดื่มน้ำสะอาดหรือเลือกดื่มน้ำสมุนไพรไม่หวานจัดสลับกับน้ำเปล่าอย่างน้อย วันละ 6-8 แก้ว น้ำช่วยนำสารอาหารต่าง ๆ ไปยังอวัยวะภายในร่างกายและช่วยขับถ่ายของเสีย ทำให้รู้สึก สดชื่น ป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ควรดื่มน้ำก่อนที่รู้สึกกระหาย ควรจำกัดปริมาณเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน
ภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ
ภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ เกิดจากสาเหตุประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายของผู้สูงอายุที่ลดลง เช่น ฟัน กระเพาะอาหาร ลำไส้ ทำให้ไม่อยากอาหาร จึงได้รับสารอาหาร ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องประเมินภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุเป็นระยะ กรณีที่แพทย์พิจารณาให้อาหารทางการแพทย์แก่ผู้สูงอายุ บางสูต รอาจมีการดัดแปลงสูตรเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยในแต่ละสภาวะของโรค ก่อนที่จะเริ่มใช้อาหารทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์และนักกำหนดอาหาร เพื่อกำหนดปริมาณการใช้อาหารทางการแพทย์ให้เหมาะสมกับความต้องการสารอาหารของร่างกาย
ภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ เกิดจากสาเหตุประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายของผู้สูงอายุที่ลดลง เช่น ฟัน กระเพาะอาหาร ลำไส้ ทำให้ไม่อยากอาหาร จึงได้รับสารอาหาร ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องประเมินภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุเป็นระยะ กรณีที่แพทย์พิจารณาให้อาหารทางการแพทย์แก่ผู้สูงอายุ บางสูต รอาจมีการดัดแปลงสูตรเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยในแต่ละสภาวะของโรค ก่อนที่จะเริ่มใช้อาหารทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์และนักกำหนดอาหาร เพื่อกำหนดปริมาณการใช้อาหารทางการแพทย์ให้เหมาะสมกับความต้องการสารอาหารของร่างกาย
ภาพโดย freepik จาก https://www.freepik.com/photos/food
การรักษาภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ
การป้องกันและรักษาภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ สามารถทำได้โดย
การป้องกันและรักษาภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ สามารถทำได้โดย
- ซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด และตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อค้นหาสาเหตุ และแก้ไขไปตามสาเหตุนั้น ๆ เช่น การให้ยาต้านเศร้าในกรณีเป็นโรคซึมเศร้า การรักษาช่องปากจัดหาฟันเทียมเพื่อช่วยการบดเคี้ยวอาหาร การพิจารณาหยุดยาที่ทำให้ผู้สูงอายุเบื่ออาหาร การให้ความรู้ ด้านโภชนาการที่ถูกต้อง แนะนำปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมและให้ความรู้ความเข้าใจแก่ครอบครัว
- การให้อาหารเสริมสูตรสำเร็จรูปทางการแพทย์ เนื่องจากมีสารอาหารที่ครบถ้วนมากกว่านมทั่วไป ปัจจุบันมีทั้งชนิดน้ำและชนิดผงนำมาผสมน้ำ และแยกสูตรตามโรคของผู้ป่วย เช่น สูตรปกติ สูตรสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน สูตรสำหรับผู้ป่วยโรคไต เป็นต้น โดยให้ผู้ป่วยรับประทานเองหรือให้ ทางสายสวนกระเพาะอาหารในกรณีไม่สามารถรับประทานอาหารได้เอง ผลการศึกษาการให้อาหารเสริมสูตรสำเร็จรูปทางการแพทย์ในผู้สูงอายุที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากความเจ็บป่วยเฉียบพลัน พบว่า ให้ผลดีในด้านการป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวลดลง ทำให้กล้ามเนื้อมีกำลังบีบตัวเพิ่มขึ้น (Hand – Grip Strength) และทำให้รับประทานอาหารปกติได้เพิ่มขึ้นด้วย
เรียบเรียง:
ประทุม โพธิ์งาม ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มวิชาการ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาลำปาง
อ้างอิง:
สุพรรณิการ์ เจริญ. (2562, 13 ตุลาคม). ภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ. สืบค้นจาก https://www.vichaiyut.com/th/health/diseases-treatment/other-diseases/malnutrition-elder
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2560, 4 ตุลาคม). อาหารสำหรับผู้สูงวัย. สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/39012-อาหารสำหรับผู้สูงวัย.html
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.. (2562, 18 กันยายน 2563). โภชนาการอาหารสำหรับผู้สูงวัย. สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/50108-โภชนาการอาหารสำหรับผู้สูงวัย.html
โรงพยาบาลกรุงเทพ. อย่ามองข้ามภาวะขาดสารอาหารในผู้สูงวัย. สืบค้น 27 สิงหาคม 2563, จาก https://www.bangkokhospital.com/content/malnutrition-in-older-adults
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. โภชนาการในผู้สูงวัย. สืบค้น 27 สิงหาคม 2563, จาก https://www.bumrungrad.com/th/medical-clinics-bangkok-thailand/geriatric/services/nutrition